พรีวิว NETFLIX แอพดูซีรีย์ออนไลน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
สวัสดีครับ หลังจากที่ผมเคยแนะนำบริการดูซีรีย์และภาพยนต์ออนไลน์ไปแล้วทั้ง iFlix และ Doonee.comตอนนี้ก็ถึงคิวของผู้ให้บริการสตรีมมิ่งวีดีโอของทางฝั่งสหรัฐอเมริกาที่หลังจากมาเปิดตลาดในเมืองไทยเมื่อปีก่อน ตอนนี้ซีรีย์และภาพยนต์ต่างๆได้รองรับซับไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และประจวบเหมาะกับที่บ้านคุณพ่อผมเพิ่งเปลี่ยนจาก LEDทีวี ไปเป็นสมาร์ททีวีจอโค้ง ก็เลยได้ทดลองสมัครใช้บริการของ Netflix ที่ให้สิทธิ์ทดลองใช้งานได้ 1 เดือนก่อนตัดสินใจต่อหรือว่าไม่ต่ออายุการให้บริการครับ หลังจากครบ 30 วันนี่เป็นพรีวิวฉบับสั้นๆของคนที่ไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่ครับ
พรีวิว NETFLIX แอพดูซีรีย์ออนไลน์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ
สำหรับเน็ตฟลิกซ์นั้นจะเป็นบริการสตรีมมิ่งวีดีโอคอนเท้นต์ที่มีทั้ง ซีรีย์ และภาพยนต์ฮอลลีวู้ด รวมถึงอนิเมะ ซึ่งอาจจะมีบางรายการที่มีระบบเสียงภาษาไทยด้วย (แต่ส่วนใหญ่จะเป็นซับไทยเสียมากกว่า) โดยจุดเด่นแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ก็คือจะมีซีรีย์ที่ทางเน็ตฟลิกซ์เป็นผู้ลงทุนสร้าง และนำมาให้ดูแบบจบซีซั่นในครั้งเดียว (แต่ก็มีบางซีรีย์ที่มีกำหนดการออกอากาศอยู่เช่นกัน) โดยซีรีย์ที่ทางเน็ตฟลิกซ์เป็นผู้ลงทุนจะบางบางเรื่องที่รองรับความละเอียดของวีดีโอในระดับ Ultra-HD หรือ 4K โดยจะให้ภาพที่ละเอียดมากกว่า Full-HD ถึง 4 เท่าเลยละครับ
ค่าบริการ
เมื่อเทียบกับผู้ให้บริการรายอื่นไม่ว่าจะ Viu, Doonee หรือ iFlix จะพบว่าทาง Netflix นั้นมีค่าบริการที่สูงกว่าค่อนข้างมากเลยครับ (ทั้งนี้คงเป็นเพราะว่าต้องมีการนำค่าบริการเหล่านั้นไปลงทุนสร้างซีรีย์มาลงในแพลตฟอร์มของตัวเองด้วยครับ) แต่ถ้าเทียบกับตอนสมัยดูเคเบิลทีวีผมว่ายังจ่ายน้อยกว่าแถมสามารถเลือกรายการที่ชอบและเวลาที่อยากดูได้ด้วยครับ
จุดที่ต่างกันคือระดับความละเอียดของภาพ และจำนวนเครื่องที่สามารถเปิดดูได้พร้อมกัน
ซึ่งผมว่าถ้าดูคนเดียวและไม่มีจอระดับ 4K แผนที่ 2 (มาตรฐาน) เป็นอะไรที่คุ้มค่าที่สุดแล้ว หรือว่าถ้าหากบ้านไหนมีสมาชิกหลายคน ก็สมัครแผนพรีเมี่ยมไปเลย (เพิ่มเงินขึ้นแค่ 70 บาทเอง) ซึ่งที่บ้านผมกับบ้านคุณพ่อคุณแม่อยู่กันคนละที่ ผมก็สมัครแผนพรีเมี่ยมไว้ และสร้างโปรไฟล์ไว้แยกกันบนสมาร์ททีวีของที่บ้านคุณพ่อ เท่ากับว่าผมจ่ายเงินครั้งเดียวแต่สามารถใช้ได้สองบ้านเลยครับ
มีความยืดหยุ่นสูง
สำหรับเน็ตฟลิกซ์นั้นนอกจากที่เราจะรับชมผ่านทางเบราเซอร์บนคอมพ์แล้วก็ยังมีแอพในแพล็ตฟอร์มต่างๆ ทั้ง iOS, Android รวมไปถึง Apple-TV, PlayStation และสมาร์ททีวีที่บ้านผมใช้เป็นของ Samsung ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Tizen ก็ยังมีแอพ Netflix ติดตั้งมาให้เรียบร้อย (และผมก็สมัครใช้งานจากสมาร์ททีวีนั่นแหละครับ)
และที่ชอบมากๆอีกอย่างคือผมใช้ระบบ Windows 10 มันก็มีแอพบน Windows 10 มาให้ติดตั้งด้วย ซึ่งบนแอพนี้ผมสามารถที่จะดาวน์โหลดวีดีโอหรือซีรีย์เก็บไว้ดูแบบออฟไลน์ได้ด้วยครับ (แต่พอดีเน็ตแรง สตรีมมิ่งเอาสะดวกกว่า)
รองรับมัลติโปรไฟล์
ด้วยความสามารถในการดูพร้อมกันได้ 2 – 4 คน รวมทั้งสามารถตั้งโปรไฟล์แยกกันได้ ผมจึงมองว่ามันสามารถใช้งานในครอบครัวได้เลยแหละ โดยในบ้านนึงอาจจะตั้งโปรไฟล์เป็นของคุณพ่อ, คุณแม่, คุณลูก เพราะแต่ละคนจะมีรสนิยมในการรับชมที่แตกต่างกัน อย่างในส่วนของเด็กๆก็อาจจะให้ใช้โปรไฟล์ “มุมเด็ก” ที่มีเนื้อหาไม่รุนแรงก็ได้ครับ
หลังจากเราตั้งโปรไฟล์ใหม่จะสามารถสร้างชื่อที่เราต้องการได้ (รองรับภาษาไทยด้วยนะ)
ระบบจะให้เราเลือกซรีย์/ภาพยนต์ที่ชอบมาจำนวน 3 เรื่อง เพื่อให้อัลกอริทึมจับคู่แนวภาพยนต์หรือซีรีย์ที่เราน่าจะชอบครับ
พอสักพักนึงก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
ประเภทรายการต่างๆ
สำหรับรูปแบบเมนูของเน็ตฟลิกซ์จะมีเมนูค่อนข้างหลากหลายครับ เยอะมากจนบางทีผมว่าต้องใช้ปุ่ม Search เอาน่าจะสะดวกกว่า
แต่ที่เด่นที่สุดในนี้คงต้องยกให้ ผลงานของ Netflix ที่ตอนนี้กระแสซีรีย์เรื่อง Stranger Thing กำลังมาแรงมากๆ รวมทั้งถ้าใครเป็นแฟนมาเวลแล้วล่ะก็มีซีรีย์อย่าง The Punisher, The Defender, Luke Cage, Iron Fist เป็นต้น รวมถึงซีรีย์เกาหลี, ญี่ปุ่นอีกด้วยครับ
ส่วนทาง Anime ทางเน็ตฟลิกซ์ก็มีการลงทุนในอนิเมะหลายๆเรื่อง อย่าง Castlevania, Ajin เป็นต้นครับ
ตัวอย่างเมนูการรับชม
รูปแบบ APP บน WINDOWS 10
ถ้าอยู่ที่บ้านคุณพ่อ ผมจะดูผ่านสมาร์ททีวีเพราะว่าจอใหญ่ (55″ ระดับ 4K ฟินกันไปสิ) แต่พออยู่ที่บ้านตัวเอง ผมชอบที่จะดูผ่านแอพบน Windows Store ครับ เพราะว่าลื่นและไม่กินแรมเท่ากับการเปิด Google Chrome เพื่อดูซีรีย์ครับ
เมนูจะย้ายจากด้านไปมาอยู่ด้านข้างแทน
สรุป
หลังจากที่ใช้งานมาได้เกือบหนึ่งเดือน พรุ่งนี้ก็จะครบวันที่ตัดบัตรเดบิตแล้วครับ กำลังคิดอยู่ว่าจะต่อแผนเดิม(พรีเมี่ยม) หรือย้ายมาแผนปกติ หรือว่าจะงดใช้ไปก่อน (เพราะแต่ละวันเวลาก็ไม่ค่อยจะมีดูเท่าไหร่) เดี๋ยวค่อยตัดสินในอีกทีนึงครับ มาว่าในแง่ของคุณภาพและความคุ้มค่ากันก่อน
ในแง่ของคุณภาพผมให้ไปที่ 8/10 นะครับ เพราะว่าเป็นผู้ให้บริการรายแรกที่รองรับการสตรีมมิ่งในความละเอียด 4K (แต่เน็ตที่ใช้ดูต้องมีความเร็วในระดับหนึ่งด้วยนะ ไม่งั้นมีการกระตุก) ขอหัก 2 คะแนน เพราะบางทีดูๆไปแล้วภาพกลายมาเป็นความละเอียดต่ำ แสดงว่ายังบัฟเฟอร์ไว้ไม่มากเท่าไหร่
ในส่วนของความคุ้มค่าผมให้ 8/10 เช่นกัน เพราะว่ามีหนัง/ซีีรีย์ที่ผลิตให้ทางเน็ตฟลิกซ์ค่อนข้างมาก มีอนิเมะดังๆมาลงให้ และภาพยนต์ฮอลลีวู้ดเพียบ รวมทั้งยังมีหนังในดวงใจผมที่หาดูไม่ได้อีกแล้วก็มีมาให้ดู แต่หนังไทยมีค่อนข้างน้อยนะครับ (ต้องไปดูทางฝั่ง iFlix แทน)
การสมัครทำได้ง่ายมาก ส่วนการตัดเงินจะผ่านบัตรเดบิต (พอดีผมสมัครผ่านสมาร์ททีวีมันให้ใส่เลขบัตรเครดิต/เดบิต) ซึ่งเทาที่ลองใช้บัตร WeCard ของ TRueMoney พบว่าสมารถใช้งานได้ด้วยครับ ดังนั้นถ้าใครไม่มีบัตรเดบิต/เครดิต สามารถใช้บัตร WeCard ของ TrueMoney สมัครได้นะครับ
ข้อดี
- มีซีรีย์สุดเอ็กซ์คลูซีฟ ที่ผลิตให้กับทางเน็ตฟลิกซ์โดยเฉพาะ
- รองรับความละเอียดระดับ 4K UHD
- มีทั้งซีรีย์/สารคดี/ภาพยนต์และการ์ตูน(อะนิเมะ)ให้เลือกดูได้ตามต้องการ
- สามารถรับชมได้ 2 – 4 อุปกรณ์พร้อมกัน (แผนมาตรฐาน/พรีเมี่ยม)
- มีแอพบนอุปกรณ์ต่างๆนอกจาก iOS, Android ก็ยังมีบนสมาร์ททีวี, PlayStation, Windows Store
- สามารถดาวน์โหลดไว้ดูแบบออฟไลน์ได้ (สำหรับใช้งานผ่านแอพต่างๆ)
- มีตัวช่วยแนะนำเนื้อหาที่เราน่าจะสนใจ
- สามารถทดลองใช้ได้ 30 วัน
ข้อสังเกตุ
- ราคาสูงกว่าคู่แข่งที่ให้บริการเกือบเท่าตัวหรือมากกว่า
ความคิดเห็นของบล็อกเกอร์
Netflix น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกของผู้ที่ต้องการดูวีดีโอออนไลน์เพราะว่ามีทั้งซีรีย์และภาพยนต์จำนวนมากให้เลือกดูได้ตามต้องการและมีอัลกอริทึมที่ช่วยในการสรรหาภาพนยต์/ซีรีย์ที่เราน่าจะชอบมาแนะนำให้เราอีกด้วย สนนราคาก็ไม่แพงมากคิดเฉลี่ยต่อวันเพียง 12-14 บาทเท่านั้นเองครับ
NETFLIX คืออะไร?
เน็ตฟลิกซ์ คือ ผู้ให้บริการรับชมภาพยนตร์ / ซีรีส์ /การ์ตูน ผ่านทางออนไลน์อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยลูกค้าจะต้องจ่ายค่าสมาชิกรายเดือนเพื่อเข้าชมภาพยนตร์ โดยมีแพ็คเกจให้เลือก จุดกำเนิดของ เน็ตฟลิกซ์ เริ่มต้นที่ประเทศ สหรัฐอเมริกา ในปี พ.ศ. 2540 ซึ่งปัจจุบัน เน็ตฟลิกซ์ เริ่มขยายการบริการไปยังประเทศต่างๆ ปัจจุปัน เปิดให้บริการกับชาวไทยแล้วด้วย
แนะนำซีรีส์ Nexflix น่าดู 2018
ให้แอดมินแนะนำ เป็นไกด์ช่วยเลือกได้นะครับ ใครไม่รู้จะดูเรื่องไหน เรารวมไว้ให้แล้ว
ราคาค่าบริการ แพ็คเกจ ของ NETFLIX
PACKAGE : BASIC
เป็นแพ็คเกจ เริ่มต้นที่ถูกที่สุดของ NETFLIX ราคา 280 บาท โดยแพ็คเกจนี้จะไม่รองรับ ภาพแบบ HD และ Ultra HD และสามารถดูได้คนเดียวเท่านั้น
PACKAGE : STANDARD
แพ็คเกจต่อมาเป็นแพ็คเกจราคาปานกลาง ราคา 350 บาท โดยแพ็คเกจรองรับ ภาพแบบ HD แต่ไม่ครอบคลุมถึง Ultra HD และสามารถดูพร้อมกันได้ 2 เครื่อง
PACKAGE : PREMIUM
แพ็คเกจสุดท้ายเป็นแพ็คเก็จสูงที่สุด ราคา 420 บาท โดยแพ็คเกจ รองรับ ภาพแบบ HD และ Ultra HD และสามารถดูได้สามารถดูพร้อมกันได้ 4 เครื่อง
* การชำระเงินสามารถตัดผ่านบัตรเครดิตและ PAYPAL
* ปัจจุบันทุกแพ็คเก็จ NETFLIX จะดูฟรี 1 เดือนแรก และสามารถยกเลิกได้ตลอดเวลา
เมื่อทำการชำระเงินเรียบร้อยแล้วในครั้งแรก จะมีตัวเลือกให้เลือกหนังและซีรีส์ในแนวที่คุณชอบก่อน เมื่อผู้ใช้ทำการเลือกครบ ทั้ง 3 เรื่อง ระบบก็จะนำเสนอซีรีส์และภาพยนตร์ที่ใกล้เคียงที่คุณชอบมานำเสนอในครั้งต่อไป (สามารถไม่เลือกได้)
การใช้งาน NETFLIX
เมื่อเข้าสู่ระบบผู้ใช้สามารถสร้างผู้ใช้ใหม่ขึ้นมาได้ เพื่อนำไปดูในแพล็ตฟอร์มอื่น
ตัวอย่างการเปิด NETFLIX ผ่านเบราเซอร์ บนเครื่อง PC
ตัวอย่างการเปิด NETFLIX ผ่าน APPLICATION NETFLIX บน IPAD
ตัวอย่างการเปิด NETFLIX ผ่าน APPLICATION NETFLIX บน IPAD
ตัวอย่างการเปิด NETFLIX ผ่าน APPLICATION NETFLIX บน IPHONE
ตัวอย่างการเปิด NETFLIX บนเครื่อง PS4
ตัวอย่างการเปิด NETFLIX บนเครื่อง PS4
เสียงและซับไตเติ้ลซีรีส์และภาพยนตร์บน NETFLIX
ปัจจุบัน ทาง NETFLIX เริ่มเอาใจคนไทยมาขึ้น สำหรับซีรีส์ใหม่ๆนั้นมักจะมีซับไตเติ้ลไทยหรือบางเรื่องจะมีเสียงไทย มาตั้งแต่แรก (โดยเฉพาะซีรีส์ที่ลงใหม่) ส่วนซีรีย์เก่าหรือที่ลงก่อนหน้านี้นั้นบางเรื่องก็ยังไม่มีซับและเสียงไทย แต่ส่วนใหญ่จะมีซับไทย ส่วนภาพยนตร์ก็มีทั้งแบบมีซับไตเติ้ลไทยและบางเรื่องก็มีเสียงไทยเช่นกัน แต่ก็ไม่ได้มีครบไปทุกเรื่อง
เรื่องอะไรมีไรบ้าง ?
ซึ่งที่สัมผัสได้ของ NETFLIX ก็คือการเอาใจคอซีรีส์มากกว่าคอหนังทั่วไป ซีรีส์ใหม่ๆลงค่อนข้างเร็ว โดยเฉพาะที่เป็น เอ็กซ์คลูซีฟ ของ NETFLIX จะลงหลังจากซีรีส์ฉาย 1 วัน โดยปัจจุบันซีรีส์ที่มีซับไทยได้แก่ A Series Of Unfortunate Events , ORPHAN BLACK , THE AFFAIR , THE INVESTIGATOR A BRITISH CRIME STORY , THE CROWN , MARVEL’S LUKE CAGE , SCREAM เป็นต้น
ซีรีส์ A Series Of Unfortunate Events
ซีรีส์ SCREAM
NETFLIX KIDS
สำหรับในอนิเมชั่นสำหรับเด็กในหมวดของ NETFLIX KIDS นั้นก็ประกอบไปด้วยซีรีส์อนิเมชั่นตะวันตก ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับเด็ก ได้แก่ MY LITTLE PONY , H2O – Mermaid Adventures , TRANSFORMERS : ROBOTS IN DISGUISE เป็นต้น
ส่วนซีรีย์และภาพยนตร์ใน จะมีทั้งซับไตเติ้ลภาษาไทย และ แบบพากษ์ไทย แต่บางเรื่องก็ยังไม่มีภาษาไทย
ซีรีส์ Trollhunters
ซีรีส์ LEGO FRIENDS : THE POWER OF FRIENDSHIP
NETFLIX คุ้มไหม?
ถึงแม้เมื่อดูราคาของค่าบริการรายเดือนของ NETFLIX เมื่อดูแล้วอาจจะดูสูงกว่าผู้ให้บริการรายอื่นอยู่พอสมควร อีกทั้งยังเน้นไปที่ซีรีส์ซะส่วนใหญ่ หากว่าคุณเป็นคอซีรี่ส์ก็ขอบอกว่าคุ้มแน่นอน เพราะซีรี่ส์หลายเรื่องระดับความคมชัดบวกกับซับไตเติ้ลที่แปลได้ดี ดูได้หลายระบบทั้งทีวี คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ รวมไปถึง เครื่องเกม และ แท็บเล็ต อีกทั้งการลงแบบรวดเร็วของซีรีส์ที่เป็น เอ็กซ์คลูซีฟ ของ NETFLIX แต่ถ้าหากคุณเป็นคอหนังที่ไม่ดูซีรีส์ หรือชื่นชอบอนิเมชั่นญี่ปุ่นและรายการเรียลลิตี้ก็คงจะไม่คุ้มสักเท่าไหร่ ก็คงต้องรอให้ NETFLIX เปิดหมวดใหม่ขึ้นมาเสียก่อนในอนาคตครับ
[รีวิวซีรีส์] Netflix Original SAFE – ศพในสระน้ำ ลูกหาย และปริศนาตราบาปในอดีต
- สร้างสรรค์โดย ฮาร์แลน คอร์เบน
- เหมาะสำหรับ ผู้ชื่นชอบซีรีส์สืบสวนสอบสวน
- สตรีมมิ่ง 8 ตอนได้ทาง Netflix
หลังปาร์ตี้สุดเหวี่ยงจบลงด้วยศพในสระน้ำ พร้อมการหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ เจนนี (เอมี เจมส์ เคลลีย์) ลูกสาวคนโตที่มีเรื่องบาดหมางกันอยู่ ทำให้ ทอม (ไมเคิล ซี ฮอลล์) คุณพ่อศัลยแพทย์ต้องทำทุกทางเพื่อหาตัวเจนนี่ โดยได้รับความช่วยเหลือจาก พีต (มาร์ค วอรเรน) เพื่อนสนิท และโซฟี (อมานดา แอบบิงตัน) ตำรวจสาวที่เขาแอบคบอยู่ โดยมีตราบาปในอดีตของภรรยาที่ตายไปแล้วเป็นกุญแจสำคัญให้เขาได้พบกับเจนนี่
ยอมรับว่า ไมเคิล ซี ฮอลล์ หรือ อดีตพ่อฆาตกรนักวิเคราะห์เลือดจากซีรีส์ดัง Dexter คือเหตุผลสำคัญที่ทำให้อยากดู SAFE แม้ว่าจะเป็นแนวใกล้เคียงกันแต่โทนของซีรีส์กลับเป็นแนวสืบสวนสอบสวนแบบย้อนหลายมุมมองคล้ายหนังราโชมอน เพียงแต่ตัวซีรีส์มิได้ไปผูกมุมมองการรับรู้ของเรากับตัวละครตรงกันข้ามมันกลับเล่นบทพระเจ้าค่อยๆเผยความจริงสุดช็อคออกมาในแต่ละตอนได้ อย่างเข้มข้น
ซึ่งข้อดีของการที่เป็นซีรีส์ขนาดสั้นเพียง 8 ตอนก็คือ มันสามารถข้ามรายละเอียดที่ไม่จำเป็น ไม่ต้องแถ ไม่ต้องยืด จนเราสามารถลุ้นไปในแต่ละตอนได้อย่างสนุกสนานมากเลยทีเดียว แม้ว่าเอาเข้าจริงตัวซีรีส์จะเต็มไปด้วยช่องโหว่มากมายในขั้นตอนการสืบสวนของตำรวจ เช่นคนหายทั้งคนแต่กลับเริ่มประกาศหลังหายไปแล้ว 4 วัน หรือกระทั่งการหักมุมในตอนท้ายที่เข้าขั้นจับยัดจนน่าหัวเราะก็ตาม แต่ก็ด้วยการสร้างคาแรกเตอร์ที่จัดจ้านและการทิ้งปมในแต่ละตอนที่ทำให้คนดูหยุดดูไม่ได้นี่แหละคือไม้เด็ดของ ฮาร์แลน คอร์เบน นักเขียนนิยายสืบสวนตัวเอ้ที่มาผูกเรื่องราว อาชญากรรมและความผิดบาปในอดีตได้อย่างน่าติดตาม
หนี่งในเหตุผลสำคัญที่ทำให้เรามองข้ามข้อเสียไปได้ น่าจะหนีไม่พ้นนักแสดง ตั้งแต่นักแสดงนำอย่าง ไมเคิล ซี ฮอลล์ ที่สลัดคราบเด็กซ์เตอร์ แล้วกลายเป็นคุณพ่อขาลุยได้อย่างสมบทบาท หรือกระทั่ง เอมี่ เจมส์ เคลลีย์ ในบทเจนนี่ ที่ด้วยหน้าตาสะสวยและบุคลิกที่ดูน่าสงสารก็ทำให้เราลืมไปได้ชั่วขณะว่าการที่เธอหนีหายไปและเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตราย มันไม่ได้คุ้มค่าสักเท่าไหร่นักก็ตาม